ขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจส่งออก

ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าให้เลือกได้ การทำธุรกิจส่งออก ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ธุรกิจที่คนไทยอยากทำมาก แต่ว่าติดตรงอุปสรรคด้านภาษา การเดินทาง รวมถึงขั้นตอนการดำเนินพิธีศุลกากรด้วย ทำให้คนกว่าร้อยละ 99 หยุด และเลิกทำส่งออกไป หรือบางคนยังไม่คิดแม้แต่จะเริ่มต้นด้วยซ้ำ

เพื่อให้การส่งออกไม่ได้เป็นเรื่องยากเกินไป วันนี้ผมขอนำขั้นตอนการทำธุรกิจส่งออกที่ได้จากประสบการณ์ทำงานจริงๆ มาแชร์ให้ผู้อ่านทุกคนทราบครับ

การเริ่มต้นธุรกิจส่งออกนั้นมีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. เลือกรูปแบบธุรกิจ

ในการทำส่งออก เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะทำธุรกิจแบบไหน เช่น รับจ้างผลิต พ่อค้าคนกลาง หรือว่าเป็นเจ้าของแบรนด์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของรายละเอียดการทำงาน จุดแข็งในการทำธุรกิจ หากเราจะเลือกเป็นอะไรนั้น ต้องดูว่าตัวเราเอง เหมาะสมกับอะไร

หากคุณมีโรงงานอยู่แล้ว หรือที่บ้านมีโรงงาน หรืออาจจะเคยทำโรงงานประเภทนั้นๆ มาก่อน การเริ่มจากเป็นผู้ผลิตเลยก็ดูไม่ได้เสียหายอะไร เพราะคุณคุ้นเคยและทำมันได้เองอยู่แล้ว แต่หากคุณไม่เคยมีโรงงานมาก่อนเลย ผมก็ขอแนะนำว่าให้เลือกมันเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการทำโรงงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เราต้องหาทั้งคน เครื่องจัก สถานที่ เงินทุน เป็นต้น ถ้ายังไม่มีโรงงาน การเลือกเป็นคนกลาง ซื้อมาขายไป หรือแม้กระทั่งทำแบรนด์ตัวเองก็น่าสนใจไม่น้อยครับ

2. เตรียมเงินทุนทำธุรกิจส่งออก

ในการทำส่งออก มีเงินทุนอยู่ 3 ก้อนที่ต้องใช้

ก้อนแรกคือเงินทุนสำหรับจัดตั้งธุรกิจ หากคุณตั้งใจจะทำโรงงานอยู่แล้ว เงินก้อนนี้คือการลงทุนในการสร้างโรงงาน ลงทุนเครื่องจักรทั้งหลาย ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราจะใช้เงินเราเอง หรือไปกู้แบงค์ หรือไปหาผู้ร่วมทุนนะครับ

เงินก้อนที่สอง คือ เงินทุนหมุนเวียน เช่น เราจะต้องเอาเงินไปซื้อวัตถุดิบมาผลิต ค่าจ้างแรงงาน ค่าแรง เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น เงินก้อนนี้เปรียบเสมือนเลือดในตัวเรา หากตัวเราขาดเลือด ก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ ทุกอย่างติดขัดไปหมด

เงินก้อนสุดท้าย คือ หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากคุณต้องการขยายธุรกิจ สามารถนำหลักทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน เงินฝาก พันธบัตร ไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อการส่งออกจากธนาคารได้ ซึ่งจะทำให้เงินก้อนที่สองของเราขยายมากขึ้น และทำให้ธุรกิจไหลลื่นขึ้น เงินก้อนนี้เปรียบเหมือนตัวคูณทางธุรกิจ แต่หากไม่มีจริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ สร้าง แล้วเดี๋ยวก็ขยายเอง

3. หาความรู้ด้านการส่งออก

หากคุณมีเงิน มีไอเดีย แต่ไม่มีความรู้ด้านการส่งออก เท่ากับคุณไม่มีเงินนะครับ เพราะการทำธุรกิจสมัยนี้ การมีความรู้เป็นพื้นฐาน เราจะบอกว่าอาศัยลุยเดี่ยว ลุยเลย ไม่ต้องหาความรู้ ไม่ได้แล้วจริงๆ

ความรู้ที่คนทำธุรกิจส่งออกต้องมีนั้น มีหลายๆ ด้านด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ กฏระเบียบข้อบังคับ การตลาด เอกสารในการส่งออก เทอมการชำระเงิน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และอื่นๆ อีกมากมาย แน่นอนว่าเราไม่สามารถรู้ทุกเรื่องภายในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่ๆ ต้องอาศัยการเรียนและประสบการณ์ เรียนไป ทำไป แก้ไขปรับปรุงไป ถึงจะเก่งและเข้าใจมากขึ้นครับ

4. จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทส่งออก

ในการส่งออกเราสามารถทำได้ทั้งส่งออกในนามบุคคล และทั้งในนามบริษัท ซึ่งการส่งออกในนามบุคคลนั้น หาได้ยากมาก เพราะหลายๆ เหตุผล ไม่ว่าจะเป็นความยุ่งยากในการทำเอกสาร การบริหารจัดการภาษี รวมถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อเรา หากทำในรูปแบบธุรกิจ จะดูจริงจัง น่าเชื่อถือมากกว่า ดังนั้นหากเลือกได้และไม่ติดขัด ผมก็แนะนำให้ทำในรูปแบบบริษัทครับ

การจัดตั้งบริษัทนั้น ทำได้ไม่ยากแล้ว แต่สิ่งที่ยากถัดมาคือทำยังไงให้บริษัทอยู่รอด รวมถึงการมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชี ภาษี การจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งอันนี้ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด

แล้วควรจดทะเบียนบริษัทไปเลยดีมั้ย

โดยส่วนตัวผมแนะนำว่าแล้วแต่ความสะดวกของคุณครับ ถ้าให้ดีที่สุดคือ มีออเดอร์จากต่างประเทศก่อน แล้วค่อยไปจด ถ้าลูกค้าต้องการจริงๆ แต่ในอีกแง่ ถ้าคุณยังพะว้าพะวงกับการจะจดไม่จดบริษัท แล้วทำให้เสียเวลาในการทำสิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นมากกว่า ก็รีบๆ ไปจดทะเบียนให้มันจบๆ ไปดีกว่าครับ

เห็นมั้ยครับว่าขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจส่งออก ไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ว่าต้องอาศัยการเรียนรู้และลงมือทำ สำหรับท่านที่กำลังสนใจและต้องการจะเริ่มธุรกิจส่งออกนั้น สามารถใช้บริการกับเราได้นะครับ

เรียนนำเข้าส่งออก

บริการที่ปรึกษาการทำธุรกิจนำเข้าส่งออก

ติดตามข้อมูลนำเข้าส่งออกทางไลน์ แอดเฟรนด์ได้เลยครับ

โทร 093-2364951
Add Line ID @intertrader
Facebook: inter trader academy
Email: intertraderacademy@gmail.com
ลงทะเบียนที่นี่

บทความเกี่ยวข้อง

Leave a Comment